All-on-X restoration

All-on-X restoration เป็นเทคนิคทางทันตกรรมที่ใช้ในการทดแทนฟันที่ถูกถอนออกไปให้กลับคืนมาโดยการใช้รากฟันเทียม (dental implants) เพื่อยึดฟันปลอม (prosthetics) ไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม “X” ในหมายถึงจำนวนรากฟันเทียมที่ใช้ ซึ่งอาจจะเป็น 4, 5, 6 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการของผู้ป่วย

หลักการของ All-on-X คือการใช้รากฟันเทียมจำนวนน้อยที่สุดเพื่อรองรับฟันปลอมทั้งแผง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ประหยัดระยะเวลาและค่ารักษาเมื่อเปรียบเทียบกับการทำรากเทียมแบบซี่เดี่ยวๆ

ประโยชน์ของ All-on-X restoration ได้แก่:

1. ความสะดวกและรวดเร็ว สามารถใส่ฟันปลอมได้ในวันเดียว หรือในเวลาที่สั้นลงเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการอื่น ๆ
2. ประสิทธิภาพ ใช้รากฟันเทียมจำนวนน้อยเพื่อรองรับฟันปลอมทั้งแผง ทำให้ลดระยะเวลาและค่ารักษา
3. ความเป็นธรรมชาติ ฟันปลอมชนิดนี้มักจะมีความสวยงามและความรู้สึกใส่สบายต่อผู้ป่วย
4. การฟื้นฟูความสามารถในการเคี้ยวและพูด สามารถช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาเคี้ยวอาหารและพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Digital All-on-X Restoration เป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการฟื้นฟูฟันทั้งปากโดยใช้รากฟันเทียม (dental implants) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในขั้นตอนนี้สามารถเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการรักษาได้อย่างมาก ขั้นตอนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในงาน All-on-X restoration คือ

1. การสแกนฟันแบบดิจิทัล การใช้เครื่องสแกนดิจิทัลในการสแกนช่องปากของผู้ป่วยแทนการใช้วิธีการพิมพ์ปากแบบดั้งเดิม วิธีนี้ช่วยลดความไม่สะดวกและเพิ่มความแม่นยำในการสร้างโมเดลฟัน

2. การวางแผนการรักษาด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้ซอฟต์แวร์ CAD/CAM (Computer-Aided Design/Computer-Aided Manufacturing) เพื่อวางแผนการฝังรากฟันเทียมและการออกแบบฟันปลอม ซอฟต์แวร์นี้ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถจำลองการรักษาและปรับเปลี่ยนแผนได้ตามความจำเป็น

3. การพิมพ์สามมิติ (3D Printing) การใช้เครื่องพิมพ์สามมิติในการสร้างโมเดลฟันปลอมและชิ้นส่วนที่จำเป็นอื่น ๆ วิธีนี้ช่วยให้สามารถผลิตฟันปลอมที่มีความแม่นยำสูงและออกแบบเฉพาะบุคคลได้

4. การฝังรากฟันเทียมด้วยระบบนำทาง (Guided Surgery) การใช้เทคโนโลยีการนำทางเพื่อช่วยในการฝังรากฟันเทียมในตำแหน่งที่แม่นยำ ทำให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. การประเมินผลและการติดตามผลด้วยดิจิทัล การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการติดตามผลการรักษาและการปรับปรุงฟันปลอมตามความจำเป็น วิธีนี้ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ใน All-on-X Restoration ไม่เพียงแต่เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการรักษาเท่านั้น แต่ยังช่วยลดเวลาและความไม่สะดวกสำหรับผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังช่วยให้ฟันปลอมที่ได้มีคุณภาพสูงและมีความสวยงามเป็นธรรมชาติ

ผู้ป่วยรายนี้มาด้วยอาการสำคัญคือฟันโยกทั้งปาก เคี้ยวอาหารแล้วเจ็บร่วมกับมีปัญหาทางด้านความสวยงาม ไม่กล้าเปิดเผยรอยยิ้ม จากการซักประวัติและตรวจสภาพช่องปากร่วมกับการส่งถ่ายภาพรังสีพบว่าผู้ป่วยมีโรคปริทันต์อักเสบชนิดรุนแรง ไม่สามารถเก็บรักษาฟันไว้ได้ จากการวางแผนการรักษาร่วมกับผู้ป่วยจึงได้แผนการรักษาในขากรรไกรบนเป็นฟันปลอมติดแน่นยึดด้วยรากฟันเทียม 5 ตัว ( All on 5) ส่วนในขากรรไกรล่างเป็นฟันปลอมถอดได้ยึดด้วยรากฟันเทียม 2 ตัว (Implant retained over denture) จากนั้นได้ทำการสแกนฟันแบบดิจิทัล และเอกซเรย์ 3 มิติ เพื่อออกแบบฟันปลอมและแนวนำทางต่อไป

ในขั้นตอนการรักษาผู้ป่วยได้รับการถอนฟันและปลูกรากฟันเทียมทันที จากนั้นทำการรอ 3 เดือนเพื่อให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกโดยในระหว่างนี้ผู้ป่วยได้รับการใส่ฟันปลอมทั้งปากชั่วคราวเพื่อใช้บดเคี้ยวอาหารและให้ความสวยงาม หลังครบ 3 เดือนจึงได้ทำการใส่ฟันปลอมตัวจริง (Final prosthesis) และติดตามการรักษาทุกๆ 6 เดือน